เมล็ดพันธุ์ผัก ต้นกล้า โรงเรือน อุปกรณ์การเกษตร โรคและแมลง อาหารเสริม ผลสด
เมล็ดพันธุ์คุณภาพ






108AGRIEQUIPMENT.COM
DUCKAGRO.COM

เทคนิคการเพาะเมล็ด

    
  • เทคนิคการเพาะเมล็ด

วันนี้ 108 เทคโนฟาร์ม เกร็ดความรู้เรื่องการเพาะเมล็ดผักให้งอกดี และมีเปอร์เซ็นการงอกสูงขึ้นมาฝากทุกคนจ้า ลองไปดูกันเลย

1. ผักบุ้ง นำเมล็ดแช่น้ำก่อนประมาณ 6 - 12 ชั่วโมง นำเฉพาะเมล็ดที่จมน้ำไปเพาะ ผักบุ้งจะใช้เวลางอกประมาณ 5 - 14 วัน อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอก 18 - 25 องศาเซลเซียส อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 20 - 25 วัน 2. คื่นช่าย นำเมล็ดแช่น้ำประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง แล้วห่อด้วยผ้า หรือใส่กล่องพลาสติกถนอมอาหาร ปิดฝาให้สนิทแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วนำมาเพาะตามปกติ จะทำให้ คื่นฉ่ายจะใช้เวลางอกประมาณ 5 - 7 วัน อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอกคือ 15 - 20 องศาเซลเซียส อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 70 - 80 วัน 3. ผักชี นำเมล็ดมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าแล้วใช้ท่อพีวีซี กลิ้งคลึงเมล็ดให้แตกเป็น 2 ซีก แล้วนำไปแช่น้ำอุ่นประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง (หรือจนกว่าเมล็ดจะจม) แล้วนำไปเพาะตามปกติจะทำให้ผักชีงอกได้เร็วขึ้น ปกติผักชีจะใช้เวลางอกประมาณ 5 - 7 วัน - ผักชีไทย อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 40 - 50 วัน - ผักชีลาวอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 55 - 60 วัน 4. ผักชีฝรั่ง นำเมล็ดแช่น้ำอุ่นประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง แล้วนำไปเพาะตามปกติ โดยจะใช้เวลางอกประมาณ 5 - 7 วัน อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 100 - 120 วัน 5. พืชตระกูลแตง ได้แก่ แตงกวา, แตงโม, แคนตาลูป, เมล่อน, แตงไทย, ฟักทอง, น้ำเต้า ฯลฯ นำเมล็ดมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 40 - 50 องศาเซลเซียส โดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง หรือจนกว่าเมล็ดจะจมน้ำ จากนั้นให้นำเมล็ดมาเพาะในกล่องพลาสติกถนอมอาหารโดยวางรองด้วยกระดาษชำระพรมน้ำให้ชุ่ม จากนั้นปิดฝาให้สนิท นำไปตากแดดในช่วงเช้าประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง จะทำให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น โดยปกติจะใช้เวลาในการงอกประมาณ 4 - 7 วัน เมื่อเมล็ดเริ่มงอกก็นำไปเพาะลงวัสดุปลูกต่อไป - แตงโมเปลือกลาย, แตงโมเปลือกดำ อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 35 - 40 วันหลังจากดอกบาน - แตงไทย อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 50 - 55 วันหลังจากหยอดเมล็ด - แตงกวา อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 6 - 7 วันหลังดอกบาน - เมล่อน, แคนตาลูป อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 40 - 60 วันหลังผสมเกสร (แล้วแต่ชนิดของสายพันธุ์) 6. พืชกลุ่มพริก, มะเขือ, มะเขือเทศ นำเมล็ดมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 50 องศาเซลเซียส โดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง หรือจนกว่าเมล็ดจะจมน้ำ จากนั้นให้นำเมล็ดมาเพาะในกล่องพลาสติกถนอมอาหารโดยวางรองด้วยกระดาษชำระพรมน้ำให้ชุ่ม จากนั้นปิดฝาให้สนิท นำไปตากแดดในช่วงเช้าประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง จะทำให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น โดยปกติจะใช้เวลาในการงอกประมาณ 5 - 10 วัน เมื่อเมล็ดเริ่มงอกก็นำไปเพาะลงวัสดุปลูกต่อไป - มะเขือเทศ อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 70 - 80 วันหลังจากหยอดเมล็ด - พริก อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 50 - 60 วันหลังจากหยอดเมล็ด - มะเขือเปราะ อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 50 - 60 วันหลังจากหยอดเมล็ด 7. ปวยเล้ง เป็นพืชที่หลายคนคิดว่าเพาะได้ยาก แต่จริงๆแล้วการเพาะปวยเล้งไม่ยากอย่างที่คิดแต่อาจจะใช้เวลา และเทคนิคยุ่งยากกว่าเมล็ดพืชชนิดอื่น โดยมีขั้นตอนดังนี้ - นำเมล็ดปวยเล้งไปแช่ในน้ำเย็นประมาณ 1 คืน แต่อย่านานกว่านั้นเพราะเมล็ดจะเน่าได้ - นำกล่องพลาสติกถนอมอาหารที่มีฝาปิดมิดชิด รองด้านในด้วยกระดาษชำระประมาณ 2 - 3 ชั้น แล้วพรมน้ำให้พอชุ่มทั่วกระดาษแต่อย่าให้ท่วมกระดาษมากเกินไป ให้เทน้ำที่ค้างออกด้วยนะคะ - นำเมล็ดปวยเล้งที่แช่น้ำมาแล้วประมาณ 3 - 5 ชั่วโมงมาล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วนำเมล็ดไปโรยลงบนกระดาษชำระในกล่องพลาสติกถนอมอาหารปิดฝาให้สนิทแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น (ช่องแช่ปกติ) อุณหภูมิของตู้เย็นปกติจะอยู่ที่ประมาณ 4 - 7 องศา C ซึ่งเป็นอุณหภูมิทีเหมาะต่อการงอกของเมล็ดปวยเล้งอยู่แล้ว - ประมาณ 7 - 14 วัน ปลายเมล็ดปวยเล้งจะเริ่มแตกออก และมีปลายรากโผล่ออกมาจากเมล็ด จึงสามารถนำเมล็ดที่มีรากงอกออกมานั้นไปเพาะลงวัสดุปลูกได้ค่ะ อายุเก็บเกี่ยวปวยเล้งประมาณ 35 - 45 วัน (นับจากวันปลูก) 8.ผักสลัดชนิดต่างๆ เพาะกล้าสลัดโดยใช้กล่องถนอมอาหารที่มีฝาปิดสนิท รองด้านในด้วยกระดาษชำระประมาณ 2 ชั้นแล้วพรมน้ำให้กระดาษเปียก และเทน้ำออก จากนั้นให้นำเมล็ดสลัดมาโรยลงบนกระดาษชำระ โดยไม่ต้องพรมน้ำซ้ำ แล้วปิดฝากล่องให้สนิท (แนะนำให้นำไปวางไว้ในที่มีอุณหภูมิต่ำ เช่น ห้องปรับอากาศ หรือในตู้แช่ผัก) ประมาณ 24 - 48 ชั่วโมงเมล็ดจะเริ่มงอกให้ย้ายลงวัสดุปลูกได้เลยค่ะ อย่าปล่อยให้ 72 ชั่วโมง (3 วัน) เพราะรากจะยาวเร็วมากและทำให้ย้ายปลูกได้ยาก การกระตุ้นการงอกด้วยวิธีนี้จะทำให้เมล็ดที่เราเพาะมีเปอร์เซ็นต์การงอกและความสม่ำเสมอของการงอกสูงขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคที่จะเข้าทำลายเมล็ดจากการเพาะเมล็ดลงวัสดุปลูกโดยตรง ให้ผักที่ปลูกมีความสม่ำเสมอของต้นที่เท่ากัน มากกว่าการเพาะลงในวัสดุปลูกโดยตรง เนื่องจากการเพาะลงวัสดุปลูกโดยตรงนั้นเมล็ดสลัดมีความเสี่ยงที่จะถูกทำลายโดยเชื้อโรคหรือแมลง อีกทั้งผู้ปลูกยังควบคุมปัจจัยการงอกของเมล็ดได้ยากกว่าด้วย

ซึ่งเราคิดว่าวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตมากขึ้น และคงเป็นตัวช่วยอย่างดีสำหรับเกษตรกรมือใหม่ได้

.............................................................................................
หากท่านต้องการซื้อเมล็ดพันธุ์คุณภาพ อุปกรณ์การเกษตร ทั้งปลีกและส่ง ติดต่อสอบถามได้ที่
บริษัท 108เทคโนฟาร์ม จำกัด
โทร. 092 528 1777
E-mail: [email protected]
www.108technofarm.com
Facebook: www.facebook.com/108technofarm
Line: @108technofarm
IG: 108technofarm
108 เทคโนฟาร์ม


แสดงความคิดเห็น
คุณสมบัติ วันที่ประกาศ 2017-11-10