แมลงวันผลไม้
|
ปัจจุบัน การระบาดของแมลงวันผลไม้มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก หากไม่ทำการห่อผลไม้จะไม่ได้กินแม้แต่ผลเดียว เพราะแมลงวันผลไม้จะเข้าทำลายตั้งแต่ผลยังเล็ก ทำให้ผลเน่าและร่วงหล่น ซึ่งปัจจัยที่ทำให้แมลงวันผลไม้หรือแมลงวันทองเป็นแมลงศัตรูสำคัญของผลไม้ในประเทศไทย คือ 1.ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีการปลูกพืชหลายชนิดหมุนเวียนตลอดปี พืชต่างๆ เหล่านั้น โดยเฉพาะไม้ผลเกือบทุกชนิดเป็นพืชอาศัยของแมลงวันผลไม้ ซึ่งแมลงวันผลไม้ที่สำคัญในบ้านเราคือ Oriental fruit fly (Bactrocera dorsalis Hendel) มีพืชอาศัยมากกว่า 50 ชนิด และ guava fruit fly (Bactrocera correcta Bezzi) มีพืชอาศัยมากกว่า 36 ชนิด พืชอาศัยของแมลงวันผลไม้ทั้งสองชนิดมีทั้งผลไม้ยอดฮิต เช่น ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วง และอื่นๆ ผลไม้เหล่านี้จะทยอยออกดอกติดผลตลอดทั้งปี และกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้แมลงวันผลไม้สามารถขยายพันธุ์เพิ่มปริมาณได้ตลอดเวลา เพราะมีพืชอาหารต่อเนื่อง 2.เขตแพร่กระจายของแมลงวันผลไม้ทั้ง 2 ชนิด พบระบาดอย่างกว้างขวางในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทย 3.แมลงวันผลไม้แต่ละชนิดต้องการสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของแมลงวันผลไม้คือ อุณหภูมิ ความชื้น และแสงสว่าง อุณหภูมิมีผลต่ออายุและพัฒนาการของแมลง ขณะที่ความชื้นมีผลต่อการเจริญเติบโต ความแข็งแรงของไข่ หนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ส่วนแสงสว่างมีผลต่อการผสมพันธุ์ และการขยายพันธุ์ แมลงวันผลไม้ส่วนใหญ่มีการผสมพันธุ์มากกว่า 1 ครั้ง แมลงวันผลไม้เพศเมียที่ผสมพันธุ์กับแมลงวันผลไม้เพศผู้ที่เป็นหมันแล้ว หลังจากนั้นถ้าไปผสมพันธุ์กับเพศผู้ปกติ ก็มีโอกาสที่จะให้ลูกหลานปกติได้ ตัวเต็มวัยแมลงวันผลไม้มีชีวิตอยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน เริ่มผสมพันธุ์หลังฟักออกจากดักแด้ประมาณ 10 วัน เมื่อผสมพันธุ์แล้วสามารถวางไข่ได้ทันทีในวันถัดไป และสามารถวางไข่ได้ทุกวัน วันละประมาณ 1 – 50 ฟอง จนกระทั่งสิ้นอายุ 4.การป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ การป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ทำได้หลายวิธี วิธีการหลักๆ มีดังนี้ 4.1.การห่อผลไม้ เป็นวิธีที่เกษตรกรนิยมมากที่สุด เพราะปลอดสารพิษ และลงทุนไม่สูง การห่อผลนับว่าเป็นวิธีที่สามารถควบคุมการทำลายของแมลงวันผลไม้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผลไม้ที่เกษตรกรต้องห่อผลเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายของแมลงวันผลไม้ เช่น ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วง กระท้อน เป็นต้น สำหรับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการห่อผล ได้แก่ - ชนิดของวัสดุห่อ อาจแตกต่างกันไปตามชนิดของผลไม้ ชมพู่จะห่อด้วยถุงพลาสติกหูหิ้ว สีขาว เช่นเดียวกับฝรั่งแต่ในฝรั่งจะมีกระดาษพับเป็นหมวกเจ๊กคลุมป้องกันแสงแดดอีกที มะม่วงจะห่อด้วยถุงกระดาษสีน้ำตาล ถ้าต้องการให้มีสีสวยจะใช้ถุงกระดาษสีน้ำตาลและภายในเป็นกระดาษคาร์บอนสีดำ ส่วนกระท้อนจะห่อด้วยถุงกระดาษสีน้ำตาล - อายุที่เหมาะสมของผลไม้แต่ละชนิดที่จะเริ่มห่อ ควรทราบว่าผลไม้แต่ละชนิดควรห่อเมื่อผลมีขนาดเท่าใด คือต้องรู้ว่าผลไม้แต่ละชนิดแมลงวันผลไม้เริ่มเข้าทำลายในระยะไหน การห่อผลขณะที่ผลยังเล็กเกินไปจะมีผลกระทบ ทำให้ผลแคระแกร็นหรือร่วงได้ แต่ถ้าห่อตอนผลโตเกินไป ก็จะไม่ทัน เพราะแมลงวันผลไม้ได้เข้าทำลายและวางไข่ไว้แล้ว เช่น ชมพู่ แมลงวันผลไม้จะเข้าทำลายเมื่ออายุประมาณ 14 วัน ดังนั้น การห่อผลชมพู่จึงควรห่อในระยะนี้ หรือก่อนหน้านี้เล็กน้อย ในฝรั่งควรห่อเมื่อผลอายุประมาณ 8 สัปดาห์ ส่วนมะม่วงต้องห่อก่อนผลอายุ 2 เดือน - จำนวนผลที่เหมาะสมในการห่อ ผลไม้ที่ติดผลเดี่ยวๆ จะไม่มีปัญหาเท่าใด แต่ก็ต้องพิจารณาขนาดของวัสดุห่อให้เหมาะสม สำหรับผลไม้ที่ติดผลเป็นช่อ เช่น ชมพู่ ถ้ามีจำนวนผลต่อช่อมากเกินไปจะต้องเด็ดออก ปกติการห่อชมพู่จะใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาว ขนาด 8 x 16 นิ้ว ห่อเมื่อผลอายุ 2 สัปดาห์ จำนวนผล 3-4 ผล ต่อช่อ จึงจะให้ผลดี ผลมีขนาดโต สีสวยในระยะเก็บเกี่ยว แมลงวันผลไม้เข้าทำลายไมได้ เพราะถุงไม่ตึง และไม่ฉีกขาด 4.2.การพ่นสารฆ่าแมลง เป็นวิธีทางเลือกหนึ่งสำหรับลดประชากรแมลงวันผลไม้ สำหรับวิธีนี้ถ้าเป็นแมลงศัตรูชนิดอื่นๆ จะเห็นผลในการป้องกันกำจัดชัดเจน แต่แมลงวันผลไม้วิธีการนี้จะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพราะเป้าหมายในการพ่นสารไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าตัวแมลงวันผลไม้อยู่ที่ไหน ผลไม้ที่มีอายุและขนาดผลต่างๆ กัน จะมีการทำลายของแมลงวันผลไม้ในระยะต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยระยะไข่ หนอนวัยแรกจนถึงวัยสุดท้าย ซึ่งจะฝังตัวอยู่ในผล และมีความทนทานต่อ สารฆ่าแมลงแตกต่างกัน เมื่อเป็นหนอนวัยสุดท้ายจะเจาะออก และดีดตัวลงไปเข้าดักแด้ในดิน จะเห็นได้ว่า การพ่นสารฆ่าแมลงเพื่อป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้จะไม่ค่อยตรงเป้าหมายที่ต้องการกำจัด ในทางตรงกันข้ามอาจไปทำลายศัตรูธรรมชาติพวกตัวห้ำ (แมงมุมชนิดต่างๆ) และตัวเบียน (แตนเบียนชนิดต่างๆ) มากกว่า 4.3.การพ่นด้วยเหยื่อพิษ เหยื่อที่นำมาใช้จะเป็นพวกยีสต์โปรตีน นักวิชาการได้อาศัยหลักพื้นฐานทางชีววิทยา ของแมลงวันผลไม้ที่พบว่า ตัวเต็มวัยของแมลงวันผลไม้หลังจากฟักออกมาจากดักแด้จะต้องการอาหารที่เป็นโปรตีนจำนวนมาก เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ และการวางไข่ และอาหารที่มีโปรตีนเป็นองค์ประกอบจะเป็นตัวดึงดูดแมลงวันผลไม้ได้อย่างดี จึงนำยีสต์โปรตีน ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้จากโรงานอุตสาหกรรมมาผสมกับสารฆ่าแมลง นำไปฉีดพ่นให้แมลงวันผลไม้กิน แมลงวันผลไม้ทั้งเพศผู้และเพศเมีย ที่ออกหากินในช่วงเช้าจะมากินเหยื่อพิษที่มีโปรตีนเป็นองค์ประกอบ และตายในที่สุด เป็นวิธีการที่สามารถลดปริมาณประชากรแมลงวันผลไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บ เทคโนโลยีชาวบ้าน ถึงแม้ว่าแมลงวันผลไม้ จะไม่สามารถจัดได้ง่ายๆ แต่วิธีการเหล่านี้สามารถช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกผักและผลไม้ สามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ พืชผัก ผลไม้ต้องเสียหาย และขาดทุนลงในที่สุด หากท่านต้องการซื้อเมล็ดพันธุ์คุณภาพ อุปกรณ์การเกษตร ทั้งปลีกและส่ง ติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท 108เทคโนฟาร์ม จำกัด โทร. 092 528 1777 E-mail: [email protected] www.108technofarm.com Facebook: www.facebook.com/108technofarm Line: @108technofarm IG: 108technofarm 108 เทคโนฟาร์ม |
แสดงความคิดเห็น |
วันที่ประกาศ 2019-02-20 |